ราคาน้ำมันดิบ (20 ก.พ.) ร่วงแรงกว่า 2 ดอลลาร์ กังวลดอกเบี้ยสหรัฐ

ราคาน้ำมันดิบ (20 ก.พ.) ร่วงแรงกว่า 2 ดอลลาร์ กังวลดอกเบี้ยสหรัฐ

เศรษฐกิจ ราคาน้ำมันดิบร่วง หลังวิตกอัตราดอกเบี้ยแพงกระทบอุปสงค์ ท่ามกลางอุปทานที่อยู่ในระดับสูง วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา ดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดลงกว่า 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากตลาดกังวลอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน โดยธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีแนวโน้มปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาด และจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงต่อเนื่อง เพื่อชะลออัตราเงินเฟ้อลง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ ปัจจัยลบ อุปทานในตลาดยังคงอยู่ในระดับสูง ข่าวเศรษฐกิจ หลังรัสเซียคงปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบอยู่ในเดือน มี.ค. 2566 ในระดับเดิม แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการประกาศลดการผลิตลง 500,000 บาร์เรลต่อวัน นอกจากนี้ ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ มิ.ย. 2564 ปัจจัยบวกปริมาณการขุดเจาะน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐปรับลดลงเป็นครั้งที่สองในรอบสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามราคาพลังงานที่ลดลง โดย Baker Hughes รายงานปริมาณการขุดเจาะ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 17 ก.พ. ปรับลดลง 1 แท่น มาอยู่ระดับ 760 แท่น ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อยู่ที่ 76.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 2.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 83 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 2.14 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 82.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือลดลง 1.73 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

แนะนำข่าวเศรษฐกิจ อ่านเพิ่มเติมคลิกเลย : สมาคมเหล็กแผ่นรีดร้อนไทย ค้านยกเลิกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด